ATT 19 : เอาคอมไปซ่อมที่ The Mall บางแค

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม 2553

เมื่อวาน เอาคอมที่บ้านและคอมของอาอัศไปซ่อมที่ The mall บางแค
ปรากฎว่าคอมของอาอัศไม่เป็นอะไร เปิดติดอยู่ แต่มีปัญหาเรื่องไวรัส
เครื่องมันไม่สามารถฆ่าไวรันออกไปได้ เดี๋ยววันนี้ต้องเอาไปให้ร้านดูใหม่อีกครั้ง

ส่วนคอมของที่บ้าน ปรากฎว่า Harddisk มีปัญหาต้องส่งไปเคลมที่ บริษัทฯ
ก็เลยต้องรอไปก่อน อุตสาหืเพิ่อ RAM ไปแล้ว 1 G เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
มันก็เร็วอยู่สักพัก ก็เริ่มกลับมาช้าอีกแล้ว นั่นแหละมันเป็นที่ Harddisk

ATT 18 : iPad กระดานชนวนไฟฟ้าหรือสินค้าเพื่ออนาคต

วันพฤหัสที่ 27 พฤษภาคม 2553

ATT : วันนี้ได้อ่านข่าวจาก NewsReel เกี่ยวกับ iPad ที่บอกถึงคุณลักษณะที่มีการพัฒนามาจาก iPhone จึงนำมา Post เอาไว้อ่าน

iPad กระดานชนวนไฟฟ้าหรือสินค้าเพื่ออนาคต

iPad ที่มีหน้าตาคล้าย iPhone ยักษ์เนื่องด้วยรูปทรงที่คลายคลึงแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า กับขนาดหน้าจอความสูง 9.6 นิ้ว ความกว้าง 7.47 นิ้ว ความหนา 0.5 น้ำหนัก 0.7 กิโลกรัม(ที่มา: Apple.com) แต่หากมองอีกมุมก็คล้ายเน็ตบุตที่หักคีย์บอร์ดทิ้งเพราะด้วยขนาดที่ใกล้เคียงเน็ตบุคทั่วไปเพียงแต่แตกต่างตรงที่ว่า iPad ใช้คีย์บอร์ดแบบสัมผัสเท่านั้นเอง

iPad เป็นของเล่นชิ้นใหม่สำหรับสาวก Apple ซึ่งในทัศนะคติของผู้เขียนเอง มองว่าสินค้าตัวนี้น่าจะได้รับการตอบรับในระดับที่น่าสนใจไม่แพ้ iPhone และ iPod ถึงแม้ว่าลักษณะเฉพาะตัวและลูกเล่นของ iPad จริงๆแล้วไม่มีอะไรเด่นชัดมากนักแต่ด้วยความเป็น Apple จะทำให้สิ่งต่างๆที่ว่ามาไม่ได้ถูกคำนึงถึงมากนัก แค่เป็น Apple ก็เพียงพอแล้วกับการตัดสินใจซื้อสำหรับสาวก Apple เราลองมาดูสเปคของ iPad กันอย่างละเอียดมากขึ้น iPad มีความจุเริ่มต้นที่ 16 GB และสูงสุดเพียง 64 GB มี Wi Fi ทุกรุ่นและรองรับ 3G ในบางรุ่น ไม่มีช่องเสียบต่อ USB และ SD Card มีแต่เพียงช่องเสียบที่เป็นลักษณะเฉพาะในแบบฉบับของ Apple รวมถึงลักษณะการใช้งานในรูปแบบโปรแกรมการทำงานสำนักงานหรือที่เรียกกันว่า iWork เช่น พิมพ์งาน หรือ นำเสนอผลงานแบบ power point ก็ไม่ได้มีลูกเล่นที่น่าสนใจมากนักเป็นโปรแกรมการใช้งานที่มีอยู่แล้วทั่วๆไป แต่โปรแกรมที่ผู้เขียนสนใจเป็นพิเศษคือ ibooks ซึ่งดูจากการโฆษณาแล้วทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านหนังสือได้สะดวกขึ้นเนื่องด้วยหน้าจอที่ใหญ่กว่า iPhone และแนวทางการวาง iPad ซึ่งสามารถวางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนและการพลิกเปลี่ยนหน้าหนังสือง่ายดายคล้ายคลึงกับการเปิดอ่านจากหนังสือจริงๆ ส่วนหนังสือที่จะอ่านนั้นก็สามารถดาวน์โหลดผ่านเว็บไซด์ได้เพียงจ่ายค่าบริการตามอัตราทั่วๆไปของการสั่งซื้อหนังสือ e-book ออนไลน์ ทั่วๆไป ส่วนตัวราคา iPad นั้นเริ่มต้นที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 17,000 บาท ไปจนถึง 829 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ สองหมื่นกว่าบาท มีการเปิดตัวขายไปแล้ว ณ ต่างประเทศแต่สำหรับเมืองไทยคงต้องอดใจรออีกซักระยะ แต่สำหรับผู้บริโภคที่ใจร้อนคาดว่าหากต้องการจริงๆ มาบุญครองน่าจะหาซื้อได้แต่สนนราคาอาจเพิ่มขึ้นมาอีกในระดับหนึ่ง

จากข้อมูลเบื้องต้นของ iPad จะเห็นว่าในเรื่องของราคาและฟังค์ชั่นการใช้งานไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดมากนัก ถ้าจะมอง iPad เป็นเน็ตบุคก็เป็นเน็ตบุคสเปคไม่สูงนักศักยภาพมองไปมองมาก็คล้ายกระดานชนวนไฟฟ้าที่มีโปรแกรมประกอบการใช้ดีดีนี่เอง ถ้าจะมองเป็นโทรศัพท์ในด้านฟังค์ชันการใช้งานยิ่งไม่น่าจะใช่เพราะนอกจากรูปทรงที่บ่งบอกว่าเป็น iPhone ยักษ์แล้วนั้นไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นโทรศัพท์เพราะไม่สามารถใช้งานโทรออกหรือรับสายได้ แต่ถ้าจะให้มองคล้าย iPod อาจจะใกล้เคียงบ้างเพราะการดูหนังฟังเพลงคุณภาพใช้ได้เลยทีเดียว ดูไปดูมา iPad ก็ไม่ต่างจากลูกเป็ดขี้เหร่นัก ทำได้หลายอย่างแต่ไม่มีความเด่นชัดนัก แต่ใครจะไปรู้เล่าว่าในอนาคตลูกเป็ดขี้เหร่อย่าง iPad อาจกลายเป็นหงส์ผงาดชูคออย่างสวยงามเหมือนรุ่นพี่อย่าง iPhone และ iPod ก็เป็นได้

ในทัศนคติส่วนตัวของผู้เขียนมีความรู้สึกว่ากลิ่นอายของลูกเป็ดขี้เหร่ตัวนี้น่าสนใจและดึงดูดใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ผู้เขียนจะไม่ใช่สาวก Apple และรู้สึกยุ่งยากในบางครั้งกับการใช้สินค้าของ Apple ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมากโดยจะเห็นได้จากโปรแกรมและอุปกรณ์การใช้งานที่เฉพาะตัว แต่จะอย่างไรก็ตามผู้เขียนมีความเห็นว่า iPad เป็นสินค้าดาวรุ่งที่น่าจับตามองดวงหนึ่ง เนื่องจากปัจจัยสำคัญเพียงหนึ่งเดียวคือเสน่ห์ความเป็น Apple ที่ตอนนี้แทบจะกลายเป็นลัทธิหนึ่งไปแล้ว การบ่งบอกถึง lifestyle ความเป็นตัวตน ความเท่ห์ ซึ่งผู้เขียนมองว่า Apple เป็นบริษัทที่มีการทำการตลาดโดยเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ดีบริษัทหนึ่งเลยทีเดียว

โดยจะเห็นได้จาก ณ ปัจจุบันการทำการตลาดของสินค้าต่างๆพบว่าวงจรชีวิตของสินค้าแต่ละชนิดนั้นสั้นลงทุกวันทุกวัน ตลาดต้องการสินค้าที่สดและใหม่อยู่เสมอ สินค้าที่เป็นดาวเด่นวันนี้ เพียงแค่ชั่วข้ามคืนสินค้าอาจถูกลืมไปเลยก็เป็นได้ ดังนั้นสิ่งที่ผู้ผลิต ณ ยุคปัจจุบันต้องมีก็คือ ความคิดที่ไม่หยุดนิ่งในการสร้างความแปลกใหม่ ใส่ความเท่ห์โดยบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนในสินค้าให้แก่ตลาดและผู้บริโภคอยู่เสมอ ซึ่ง Apple สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่ว่ามาได้อย่างดีทีเดียว และที่มากไปกว่านั้นคือการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนหรือฐานการผลิตจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วเพียงแค่จับสินค้าเหล่านั้นมาเปลี่ยนชุดใหม่ เหมือนกับที่ใครๆต่างมองว่า iPad คือ iPhone ยักษ์ดีๆนี่เอง เนื่องด้วยรูปลักษณ์และโปรแกรมฟังค์ชั่นการใช้งานสามารถใช้ร่วมกันได้ดังนั้นจึงเป็นความง่ายและเอื้อประโยชน์ในการพัฒนาซอฟแวร์ต่างๆให้แก่ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดไปในคราวเดียวกัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างแบรนด์โดยขายความเป็นตัวตนของสินค้าที่พยายามบ่งบอกว่าเป็นหนึ่งเดียวในตลาดที่ไม่มีใครมาทดแทนได้(ในความรู้สึก) ถึงแม้ว่าในการใช้ประโยชน์จริงๆแล้วสินค้านั้นอาจไม่ได้แตกต่างกับสินค้าในท้องตลาดเลย อย่างที่ Apple ทำอยู่ โดยการขายความเท่ห์เสน่ห์ที่บ่งบอกถึงความเป็นคนที่ทันสมัยนำแฟชั่น การหิ้ว McBook ,การฟังเพลงผ่าน iPod,หรือพูดคุยสื่อสารผ่านมือถืออย่างiPhone สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ตอบสนองแค่การใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกแต่สินค้าต่างๆเหล่านี้กลายเป็นเครื่องประดับประจำตัวของผู้ใช้อีกชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว จะเห็นได้จาก iPhone ที่เป็นโทรศัพท์มือถือ มองในเรื่องราคาถ้าเทียบกับสเปคสินค้าชนิดเดียวกันแล้วหากเทียบกับโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นแล้ว iPhone แพงกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่เป็นอุปสรรคในการขาย iPhone แต่อย่างใดเพราะการใช้ iPhone ไม่ได้บ่งบอกถึงแค่อุปกรณ์สื่อสารที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือแต่บ่งบอกถึงความ cool ของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งนี้สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ยุคปัจจุบันได้ดีทีเดียว การเรียกร้องการมีตัวตน การต้องการสร้างความแตกต่าง การต้องการได้รับการยอมรับไม่ว่าโดยทางใดทางหนึ่ง จะเห็นได้จากการมีสังคมของสาวกสินค้าแบรนด์ต่างๆ เข้ามาร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนทัศนะคติซึ่งกันและกัน และสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าบุคคลไม่ได้มีสินค้าหรือบริการเหล่านั้นไว้ในครอบครอง นั้นนั้นการขายสินค้าของ Apple ที่ประสบผลสำเร็จอย่างงดงามในหลายๆผลิตภัณฑ์เกิดจากการ สร้างค่านิยมในการมีรสนิยมของตนเองโดยใช้ความแปลกใหม่และนำสมัยในเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องประดับ

iPad กระดานชนวนไฟฟ้าหรือสินค้าเพื่ออนาคต / คิดใหม่ ไทยเปลี่ยน
ทัดสุดา อิ่มสุวรรณ28/5/2553
Link - http://www.siamrath.co.th/uifont/ArticleDetail.aspx?acid=5859

ATT 17 : ทำสีรถ Chev เสร็จแล้ว














































































วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2553

หลังจากที่เมื่อวานได้ไปดูสีรถ และสีล้อมแม็กซ์ ว่าเรียบร้อยดีแล้ว
วันนี้ก็ไปรับรถมา โดยให้ขัดสีให้เรียบร้อย และก็จ่ายไป 12,000 บาท
จากนั้นก็ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้ออีกครั้ง ที่ร้าน Thai Master
เนื่องจากนำล้อไปพ่นสีใหม่ ให้เป็นสี Hiper Dark จากที่พ่นสี่บรอนด์มาให้

ATT 16 : ประกันรถ Chev - BKI

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2553

ช่วงกลางวัน เจ้าหน้าที่ของ TQM นำเอกสารการรับประกันรถมาส่ง
เป็นประกันของกรุงเทพประกันภัย มีของแถมจาก TQM ด้วย
เป็นผ้าชาร์มัว 1 ผืน

ซึ่งเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ได้ยกเลิกประกันของ AXA แล้ว และเปลี่ยนมาเป็นนอง
BKI เนื่องจาก AXA ไม่รับประกันในการเคลมในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี
จึงมีความเสี่ยง ในกรณี่ที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่ได้ชนรถกับรถ
โดยจะต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก 5,000 ในกรณีที่ต้องการเคลม
ที่เราเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี แต่ถ้าไม่ถึง 5,000 บาท ก็ซ่อมเอง

-----------------------------------------------------------------

เลขไมล์ที่ 62,349 ก.ม.


แถมผ้าชาร์มัว